ส่องกลเม็ด’ธรรมศาสตร์’ปั้นตลาดนัด-พื้นที่ธุรกิจ จุดประกายนศ.รับใช้ชุมชน

ส่องกลเม็ด’ธรรมศาสตร์’ปั้นตลาดนัด-พื้นที่ธุรกิจ จุดประกายนศ.รับใช้ชุมชน

ท่ามกลางความผันผวน ความไม่แน่นอน และความคลุมเครือของโลกยุคใหม่ ซึ่งมีการจำกัดความในภายหลังว่า VUCA เรียกร้องให้ ‘มหาวิทยาลัย’ ต้องธำรงบทบาทการเป็น ‘เสาหลัก’ ให้กับสังคม และเป็นแสงสว่างให้กับประชาชน

‘ธรรมศาสตร์’ มีแนวคิดการศึกษาเชิงผลิตภาพ หรือ ‘มหาวิทยาลัย 4.0’ ที่มหาวิทยาลัยในฐานะคลังทรัพยากร ทั้งองค์ความรู้ งานวิจัย กำลังคน งบประมาณ สถานที่ อาณาบริเวณ ฯลฯ จะต้องนำทรัพยากรเหล่านั้นออกมา ‘ตอบสนอง’ ความต้องการของสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับชุมชน เพื่อปูทางไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable) ในระดับประเทศ

การศึกษาขั้นพื้นฐาน

ด้วยปณิธานการเป็น ‘มหาวิทยาลัยเพื่อประชาชน’ และด้วยการตั้ง ‘ตัวชี้วัด’ ของทุกนโยบายให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ทำให้บทบาทของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) นาทีนี้มีความน่าสนใจไม่น้อย ควรค่าแก่การนำมาบอกต่อ

เพราะความเรียบง่ายคือคำตอบ ดังนั้นแม้ว่าเป้าหมายข้างต้นจะดูเป็นสากลและสอดคล้องกับยุคสมัยเพียงใด หากแต่สิ่งที่ ‘ธรรมศาสตร์’ ได้ริเริ่มดำเนินการกลับเป็นกิจกรรมที่ดูเหมือนว่าไม่ได้หวือหวาอะไร ทว่าสามารถเชื่อมร้อยกับชุมชนได้อย่างกลมเกลียว

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตั้งอยู่ใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ล่าสุดได้เข้าร่วมโครงการ ‘1 มหาวิทยาลัย 1 ตำบล’ ของกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ขันอาสารับหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่ 3 ตำบลของ จ.ปทุมธานี ด้วยการเสริมสร้างองค์ความรู้ และส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนในชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย

พื้นที่มากกว่า 600 ไร่ ภายใต้การบริหารจัดการของ สำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา มธ.จึงได้รับการจัดสรรเป็นสัดส่วน โดยตั้งต้นจากการให้ความสำคัญกับนักศึกษาเป็นอันดับแรก พร้อมๆ ไปกับการเชื่อมต่อมหาวิทยาลัยเข้ากับชุมชน

ธรรมศาสตร์เลือกที่จะใช้ ‘ตลาด’ เป็นเครื่องมือในการผสานความร่วมแรงร่วมใจระหว่างมหาวิทยาลัย นักศึกษา และชุมชน โดยได้จัดตั้งตลาด ‘ตลาดนัดอินเตอร์โซน’ และ ‘เชียงรากมาร์เก็ต’ ขึ้นในมหาวิทยาลัย ในรูปแบบตลาดช่วงเย็น รวบรวมของอร่อย สินค้าสไลฟ์สไตล์ และเปิดกว้างพื้นที่กิจกรรม โดยที่มาสินค้าในตลาดนั้นเป็นการชักชวนชุมชน-เครือข่ายเกษตรกรใน จ.ปทุมธานี เข้ามาตั้งแผงขายสินค้า ทั้งผักสด ผลไม้ปลอดภัย เนื้อสัตว์อนามัย รวมถึงสินค้าอุปโภค บริโภค มากมาย ท่ามกลางความสนใจของลูกค้าที่หมุนเวียนไม่ต่ำกว่าวันละ 3.5 หมื่นราย

นายภูวดล สิริชัยสินธพ ผู้จัดการฝ่ายบริหารพื้นที่ธุรกิจ สำนักงานบริหารทรัพย์สินและกีฬา มธ. เล่าว่า จากเดิมที่มีเพียงตลาดนัดอินเตอร์โซนซึ่งเป็นตลาดช่วงเย็นวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เปิดบริการเพียง 2 วัน / สัปดาห์  ในปัจจุบันเราพัฒนาเชียงรากมาร์เก็ต ช่วงเย็นวันอังคารและวันพุธ ให้สามารถเปิดบริการตลาดนัดได้ 4 วัน/สัปดาห์ และจะเพิ่มเป็นทุกวันในอนาคต เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทั้งผู้ซื้อและชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย ซึ่งสินค้าที่วางขายในตลาดเชียงรากมาร์เก็ตนั้น เป็นสินค้าที่มาจากนักศึกษา และชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย

ข่าวแนะนำ : สะท้อนเด็กไทยเตรียมศึกษาต่อต่างประเทศ

สะท้อนเด็กไทยเตรียมศึกษาต่อต่างประเทศ

บริติช เคานซิล ชี้สถิติจัดสอบ IELTS มากขึ้น สะท้อนเด็กไทยเตรียมศึกษาต่อต่างประเทศ

วันที่ 21 ตุลาคม 2565 บริติช เคานซิล ประเทศไทย ได้เผยสถิติการสอบไอเอลส์ (IELTS) ทั้งหมดในประเทศไทยระหว่างปี 2564 – 2565 รวมกว่า 35,000 ครั้ง สะท้อนจำนวนที่กลับมาเพิ่มขึ้นของผู้ต้องการนำคะแนนสอบไปใช้ยื่นศึกษาต่อ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงต่อยอดในสายงานอาชีพ หรือย้ายถิ่นฐานที่อยู่ ทั้งนี้ คะแนนสอบของคนไทยยังอยู่ที่ระดับ 6 เทียบเท่ามาตรฐานเฉลี่ยทั่วโลก

เฮลก้า สเตลมาเกอร์ ผู้อำนวยการบริติช เคานซิล ประเทศไทย เผยว่า สถิติจำนวนการสอบไอเอลส์ทั้งหมดของประเทศไทย มีจำนวนรวมกว่า 35,000 ครั้ง ซึ่งสะท้อนการกลับมาเติบโตอีกครั้งจากผลกระทบของโควิด-19 และแสดงให้เห็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นของคนไทยตั้งแต่วัยเรียนและวัยทำงาน ที่ต้องการนำคะแนนสอบไปใช้ในการยื่นศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงต่อยอดในสายอาชีพของตัวเอง

“จากข้อมูลล่าสุดของไอเอลส์พบว่า คะแนนเฉลี่ยของผู้สอบชาวไทยในวัตถุประสงค์ด้านวิชาการ (IELTS Academic) อยู่ที่ระดับ 6 ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยกลางของผู้สอบไอเอลส์ทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ 6.1 ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงของเรา อย่างกัมพูชาอยู่ที่ 5.8 เวียดนาม 6.1 ฮ่องกง 6.6 และมาเลเซีย 6.9 โดยทักษะที่คนไทยทำได้ดีที่สุดคือ ทักษะการฟัง (6.4) ตามมาด้วยทักษะการอ่าน (6.1) ทักษะการพูด (5.9) และการเขียน (5.1) ตามลำดับ” เฮลก้ากล่าว

ข่าวการศึกษา-ล่าสุด

และเนื่องในวาระครบรอบ 70 ปี ของบริติช เคานซิล ประเทศไทยในปีนี้ จึงได้เปิดตัวศูนย์สอบไอเอลส์ แบบคอมพิวเตอร์ ณ สยามสแควร์ เพื่อรองรับผู้สอบที่เพิ่มมากขึ้น และอำนวยความสะดวกให้กับผู้สอบอย่างเต็มที่ โดยจะเปิดรอบสอบทุกวัน รองรับผู้สอบได้มากกว่า 400 คนต่อสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้บริติช เคานซิล สยามสแควร์ เป็นศูนย์รวมที่ให้บริการอย่างครบครัน ทั้งด้านการสอนภาษาอังกฤษ การส่งเสริมการศึกษาต่อสหราชอาณาจักร และการจัดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ

ด้านสตีฟ อดัมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายการสอบประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก บริติ เคานซิล ระบุว่า หลังจากได้เปิดการจัดสอบไอเอลส์ด้วยระบบคอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรก เมื่อปี 2561 พบว่าอัตราส่วนของผู้ส่วนของผู้สอบที่เลือกสอบแบบคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเปรียบเทียบกับการสอบแบบกระดาษ ซึ่งคาดว่ามาจากจุดเด่นต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้สอบมากขึ้น

และเร็ว ๆ นี้จะมีการจัดสอบไอเอลส์ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเรียนหรือการทำงานจากที่ไหนก็ได้ในปัจจุบัน โดยรูปแบบการสอบจะสามารถทำการสอบจากที่บ้าน หรือสถานที่ส่วนตัวที่เหมาะสม โดยมีคอมพิวเตอร์ ไมโครโฟน กล้อง และโปรแกรมเฉพาะของการจัดสอบ ทั้งนี้ บริติช เคานซิได้เริ่มต้นนำร่องการเปิดสอบในบางประเทศเท่านั้น เช่น ฮ่องกง เป็นต้น โดยสามารถติดตามประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งสำหรับการจัดสอบในประเทศไทย ได้ที่เว็บไซต์ www.britishcouncil.or.th หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ British Council Thailand