อบอุ่นหัวใจ ตาปั่นจักรยาน ไม่ยอมปล่อยยายลงเดินแม้เข็นขึ้นเนิน รู้เหตุผลถึงกับน้ำตาซึม

อบอุ่นหัวใจ ตาปั่นจักรยาน ไม่ยอมปล่อยยายลงเดินแม้เข็นขึ้นเนิน รู้เหตุผลถึงกับน้ำตาซึม

สาวถ่ายคลิปน่ารัก เจอตาปั่นจักรยาน ไม่ยอมปล่อยยายลงเดินเลย แม้แต่ตอนขึ้นเนิน แต่พอย้อนกลับมาดูอีกทีถึงกับซึ้งหนัก

ผู้ใช้แอปพลิเคชั่น TikTok ชื่อบัญชี @praewfaii ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ ขณะที่คุณตาที่กำลังเข็นจักรยานให้กับคุณยายที่ซ้อนท้ายอยู่ แม้ว่าคุณตาจะต้องเข็นจักรยานขึ้นเนิน ก็ไม่ได้ให้คุณยายที่ซ้อนท้ายลงเดิน ก็ได้ทำการเข็นทั้งจักรยานและคุณยายขึ้นเนินไปพร้อมกัน

แต่เมื่อเธอย้อนมาดูคลิปอีกที ก็ทราบถึงเหตุผลที่คุณตาไม่ยอมให้คุณยายลงจากจักรยาน แถมเข็นคุณยายไปพร้อมๆ กันไปด้วย ซึ่งเหตุผลนั้นก็คือ คุณยายนั้นขาหายไปหนึ่งข้าง จึงทำให้หากเดินลงจากจักรยานอาจจะทำให้เดินไม่สะดวก คุณตาจึงไม่ให้ลงมาเดิน

สังคม

ผู้โพสต์ ระบุข้อความว่า “ทีแรกเราถ่ายเพราะดูน่ารัก รักตาไม่ยอมปล่อยยายลงเดินเลย แม้แต่ตอนขึ้นเนิน แต่พอกลับมาย้อนดูอีกที”

ทั้งนี้ หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ยิ่งทราบเหตุผลก็ยิ่งทำให้หลายคนประทับใจขึ้น ทำเอาหลายคนถึงกับน้ำตาซึม

แนะนำข่าวสังคมเพิ่มเติม : ตร.ฮ่องกง บุกแฟลตช่วย “หญิงไทย” จะไปทำงานนวด

ตร.ฮ่องกง บุกแฟลตช่วย “หญิงไทย” จะไปทำงานนวด

ตร.ฮ่องกง บุกแฟลตช่วย “หญิงไทย” จะไปทำงานนวด แต่ถูกลวงขายตัว ขัดขืนเจอจับขัง

ตำรวจฮ่องกงเปิดเผยในวันนี้ (9 ก.พ.) ว่า หญิงชาวไทย 2 รายถูกขบวนการอาชญากรรมล่อลวงให้ค้าประเวณีในฮ่องกง โดยหลอกว่าจะให้ทำงานเป็นหมอนวด แต่สุดท้ายกลับถูกคนร้ายจับขังเอาไว้ในแฟลตย่านเหยามาเต่ย (Yau Ma Tei) เกมสล็อต โทษฐานปฏิเสธที่จะเป็นโสเภณี เคราะห์ดีที่ตำรวจทราบเรื่องจึงบุกเข้าให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที

สำนักข่าวเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า หลังตอบรับข้อเสนอทำงาน เหยื่อชาวไทยทั้ง 2 รายจึงเดินทางจากไทยมายังฮ่องกงตั้งแต่คืนวันอังคารที่ 7 ก.พ. ก่อนถูกพามาพักค้างคืนในแฟลตดังกล่าว แต่กลับพบความจริงว่าต้องทำงานเป็นโสเภณี เหยื่อจึงพยายามขอความช่วยเหลือจากสถานกงสุลใหญ่ไทยในฮ่องกง ต่อมาสถานกงสุลจึงแจ้งตำรวจให้ดำเนินการเข้าช่วยเหลือ

สังคม

ตำรวจฮ่องกงระบุด้วยว่า เหยื่อทั้ง 2 รายเป็นหญิงวัย 38 ปีและ 47 ปี ถือหนังสือเดินทางของไทย แต่ทั้งคู่ไม่รู้จักกันมาก่อน โดยทั้งคู่ต่างก็ถูกต้มตุ๋นหลังรู้จักหญิงชาวจีนรายหนึ่งทางออนไลน์

“เหยื่อทั้ง 2 รายให้ปากคำว่า พวกเธอคิดว่าจะได้ทำงานเป็นหมอนวดแบบได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย จึงบินมายังฮ่องกง” แหล่งข่าวระบุ

ขณะเดียวกันตำรวจฮ่องกงสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยหญิงชาวฮ่องกงวัย 50 ปีได้รายหนึ่ง โดยเธอถูกควบคุมตัวจากข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว

ติดตามข่าวสารต่างๆเพิ่มเติมได้ที่นี่ >>> BTG ชี้แจงปันผลหมื่นล้านก่อน IPO จ่ายจากกำไรสะสม ย้ำหุ้นใหญ่ติดล็อกห้ามขาย 6 เดือน

BTG ชี้แจงปันผลหมื่นล้านก่อน IPO จ่ายจากกำไรสะสม ย้ำหุ้นใหญ่ติดล็อกห้ามขาย 6 เดือน

เบทาโกร นิ่งไม่ไหว รีบชี้แจงข่าว ปันผลหมื่นล้าน เป็นการปันจากกำไรสะสม เพื่อการบริหารสภาพคล่องการเงิน และการเพิ่มทุนแก้ผู้ถือหุ้นเดิม 10 บาทต่อหุ้น

สังคม วสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีกระแสข่าว BTG เกี่ยวกับประเด็นการจ่ายปันผล 10,500 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมก่อนการเสนอขายหุ้น IPO

สังคม BTG

บริษัท ขอยืนยันว่าการที่จ่ายปันผลเป็นการจ่ายปันผลจากกำไรสะสมในอดีต จากผลการดำเนินงานก่อนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่เป็นเจ้าของบริษัท 100% ทั้งนี้ การจ่ายปันผลก่อน IPO ไม่ว่าจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน หรือการกู้ยืมระยะสั้น (Bridge Loan) เป็นเรื่องปกติทั่วไป

ซึ่งเป็นการบริหารจัดการสภาพคล่องและปรับโครงสร้างทางการเงินให้เหมาะสม นอกจากนี้ ในส่วนประเด็นการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 450 ล้านหุ้น ในราคาพาร์หุ้นละ 10 บาท เพื่อปรับโครงสร้างสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมให้มีความเหมาะสม

ซึ่งเป็นกระบวนการเตรียมความพร้อมก่อนการทำ IPO ตามปกติ โดยรายละเอียดดังกล่าวถูกเปิดเผยอย่างชัดเจนในหนังสือชี้ชวนแล้ว อีกทั้งขอยืนยันว่าผู้ถือหุ้นเดิมก่อน IPO ทุกราย ได้เข้าทำสัญญาห้ามขายหุ้นทั้งหมด 100% ที่ถืออยู่ก่อน IPO จำนวนรวม 1,500 ล้านหุ้น เป็นระยะเวลา 6 เดือนหลังจากหุ้น BTG เข้าเทรดวันแรก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน

ทั้งนี้ เบทาโกรพร้อมสร้างการเติบโตของผลการดำเนินงานอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง ตามแผนการลงทุนและขยายธุรกิจในอนาคต เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย

ข่าวเเนะนำ ที่น่าสนใจ : V Care ส่งต่อสุขภาพดี

งานกาชาด 2565 เตรียมเปิดให้ร่วมกิจกรรมสุดสนุก อุดหนุนของดี 50 เขต

งานกาชาดประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 8-18 ธ.ค. ณ สวนลุมพินี เขตปทุมวัน เตรียมเปิดให้ประชาชนร่วมกิจกรรมสุดสนุก พร้อมอุดหนุนของดี 50 เขต 

สังคม นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร เผยว่า ปีนี้จะมีการจัดงานกาชาดประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 8-18 ธ.ค. 2565 ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. ณ สวนลุมพินี เขตปทุมวัน ภายใต้แนวคิด “9 ทศวรรษใต้ร่มพระบารมี สดุดีสภานายิกาสภากาชาดไทย” เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา และทรงดำรงตำแหน่งองค์สภานายิกาสภากาชาดไทยครบ 66 ปี

ขณะที่ กรุงเทพมหานครได้ร่วมออกร้าน “กรุงเทพมหานคร” ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าศูนย์เยาวชนลุมพินี (ศูนย์สร้างสุขทุกวัยลุมพินี) ภายในสวนลุมพินี ภายในร้านจะมีการจัดนิทรรศการ การเล่นเกม และเวทีการแสดง รวมทั้งมีการออกร้านจำหน่ายของดี 50 เขต ในบริเวณใกล้เคียงกันด้วย

นอกจากนี้ ในวันที่ 8 ธ.ค. 2565 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานกาชาดประจำปี 2565 ในวันพฤหัสบดีที่ 8 ธ.ค. 2565 เวลา 17.30 น. ณ หอสมุดประชาชน สวนลุมพินี

อย่างไรก็ตาม ได้กำชับในเรื่องของความปลอดภัย การติดตั้งไฟและแสงสว่าง การเพิ่มกล้อง CCTV ทั้งในร้านกรุงเทพมหานครและร้านจำหน่ายของดี 50 เขต การจัดเตรียมรถสุขาให้เพียงพอ การแยกขยะ พร้อมกล่าวว่า ขอขอบคุณคณะกรรมการออกร้าน “กรุงเทพมหานคร” ทุกท่าน ขอให้ทุกท่านตั้งใจดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และขอให้งานครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างเช่นทุกปี.

ข่าวเเนะนำ ที่น่าสนใจ : แซ่บไม่จบ! แม่แชมป์หนูน้อยกล้วยไข่

แซ่บไม่จบ! แม่แชมป์หนูน้อยกล้วยไข่ เล่านิทานสอนคนแพ้แล้วพาล ทัวร์ลงเละต้องลบโพสต์

แซ่บไม่จบ! แม่แชมป์หนูน้อยกล้วยไข่ เล่านิทานสอนคนแพ้แล้วพาล ทัวร์ลงเละต้องลบโพสต์

นึกว่าจบแต่ไม่จบ กรณีดราม่า “หนูน้อยกล้วยไข่เมืองกำแพง” เวทีประกวดชื่อดังของจังหวัดกำแพงเพชร เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา แม่รองอันดับหนึ่งสร้างตำนานขึ้นเวทีถอดรางวัลคืน ก่อนจูงมือลูกกลับบ้าน ซัดคำตัดสินค้านสายตาคนทั้งจังหวัดดราม่าสนั่น ประกวดหนูน้อยกล้วยไข่เมืองกำแพง แม่ขึ้นเวทีถอดรางวัลคืน สร้างตำนานคนงงทั้งจังหวัดล่าสุด กระแสเริ่มจางหายไปแล้ว จนชาวเน็ตนึกว่าจบ แต่กลับไม่จบ เมื่อคุณแม่ของเจ้าของตำแหน่งแชมป์หนูน้อยกล้วยไข่ ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงทางฝั่งตัวเองบ้าง เล่านิทานสอนคนแพ้แล้วพาล ระบุว่าจากการ ที่มีดราม่ากันเกิดขึ้นของน้อง ในการประกวดหนูน้อยกล้วยไข่เมืองกำแพงเพชร2565 มีข่าวต่างๆมากมายในตอนแรกกับคอมเมนส์ต่างๆ กระแสทางต่างลบของน้อง..ทางแม่ของน้องขอใช้พื้นที่นี้ชี้แจงในส่วนของความรู้สึกที่เราก็อยากปกป้องลูกของเราเหมือนกัน #Saveน้องลูกคือความภูมิใจของฉันและฉันรอคอยเขามาทั้งชีวิต

ข่าวสังคมการตัดสินของท่านคณะกรรมการ ซึ่งทางเราขอยืนยันว่าเราไม่รู้จักท่านคณะกรรมการแต่ละท่าน เราไม่ได้เป็นเด็กเส้นหรือรู้จักคนมีชื่อเสียง และเป็นเพียงแม่ขายขนมจีบแป้งสด ซึ่งเป็นร้านรถเข็นริมทาง

2 เรื่องทรงผมทางเรารู้ว่าน้องทำผมไม่เหมือนเด็กคนอื่น ๆ ในการประชุมเรื่องการแต่งกายกฎข้อบังคับคือเสื้อแขนกระบองผ้าซินพื้นเมือง แต่ทรงผมที่ประชุมได้ให้มีการเสนอทรงผม แต่ไม่มีใครพูดอะไรทางผู้จัดการงานก็สรุปเป็นขอความร่วมมือให้..ทำผมทรงฟาร่า..ให้เป็นในทางเดียวกันและในวันงานทุกคนเห็นว่าน้องทำผมเกล้ามา..ทำไมไม่ประท้วงกันตั้งแต่ตอนนั้นหรือแจ้งคณะกรรมการหรือผู้จัดงานให้น้องเดินแล้วตกรอบแรกไปเลย เพราะถ้าเป็นแบบนั้นทางเราก็เต็มใจเพราะรู้อยู่แล้วว่าทำผมมาไม่เหมือนคนอื่น แค่ลูกได้เดินขึ้นเวทีแค่รอบแรกก็ดีใจแล้ว

3 ลูกเราแค่ 5 ขวบไม่เคยเดินสายประกวด ประสบการณ์ก็ไม่มี ไม่เคยเข้าคอร์สการเดินแบบหรือการปรับบุคคลิกภาพ เพราะเราไม่ได้ตั้งใจมาสายนี้ แต่ที่มาประกวดก็แค่หาประสบการณ์ สร้างความกล้าแสดงออก มีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหา การควบคุมอารมณ์เด็ก 5 ขวบ ทำได้ขนาดนี้ในความคิดเราน้องเก่งมาก เหนื่อยก็อดทน ไม่เคยบ่น แต่ลูกเราก็สู้มาถึงรอบสุดท้าย..คุณคงมั่นใจว่าลูกเราคงไม่ได้ที่ 1 เพราะคุณลงทุนไปเยอะ แต่ผลตอบรับกลับไม่เป็นไปตามคาด..พาลค่ะพาล

4 เราไม่เคยคาดหวังว่าลูกเราต้องได้ที่ 1 แค่เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ก็มาไกลเกินฝันแล้ว แค่รอบ 10 คน ที่มีการตอบคำถามหลังจากลงเวทีเราบอกลูกว่า..กลับบ้านกันลูก พี่ ๆ เขาตอบกันเก่งมากเราไม่คิดว่าจะเข้ารอบ 5 คน ด้วยซ้ำ

5 คุณบอกว่าพอประกาศผลว่าน้องได้ที่ 1 มีแต่คนโห่กันทั้งงาน…เราขอให้คุณฟังดี ๆ ว่าเสียงโห่หรือเสียงปรบมือหรือเสียงยินดีให้กำลังใจน้อง..แต่ท่านผู้ชมให้กำลังเสียงปรบมือดังตั้งแต่รอบตอบคำถามแล้ว..ไม่ทราบว่ามีปัญหาเรื่องประสาทหูหรือเปล่าค่ะ

6 ลูกเราก็มีการซ้อมเดินการตอบคำถามแต่เป็นเพียงการซ้อมกันกันเองไม่ได้เข้าคอร์สเป็นพัน..ทำเท่าที่เราทำได้คำถามก็เป็นไหวพริบล้วน ๆ เป็นการแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าของเด็ก 5 ขวบ ลูกเราไม่ได้ท่องจำเพราะไม่รู้คำถาม..เพราะคำถามที่เราซ้อมก็มีแต่ซองคำถามนั้นเด็กคนอื่น ๆ จับซองได้ไป คำถามนี้เราก็คิดไม่ถึง เราถือว่าลูกเราเก่งมากแล้วในสายตาเรา..เราภูมิใจในตัวลูกเรามาก

สุดท้ายนิทานเรื่องนี้สอนให้อยู่ว่าอย่าคาดหวังอะไรมากเกินไป เพราะถ้าไม่เป็นไปตามที่หวังมันจะรู้สึกเจ็บมากและจงยอมรับในผลของการกระทำที่มันเกิดขึ้นเพราะข้อผิดพลาดย่อมสามารถแก้ไขได้เสมอ..จงให้กำลังไม่ใช่กดดัน ยอมรับข้อผิดพลาดแล้วแก้ไข ยอมรับกับความเป็นจริงแล้วสู้ต่อไป..จงอย่าตัดสินใจคนอื่นเพียงแค่ความคิดของคุณเพียงฝ่ายเดียว เหรียญมันมี 2 ด้าน อย่าตัดสินความข้างเดียวถ้าคุณยังไม่ได้ฟังความอีกฝ่ายหนึ่ง และที่สำคัญเราไม่ใช่จุดศูนย์กลางของโลกใบนี้..”